News: เว็ปเราอายุ 17 ขวบแล้วนะ


มือใหม่ซื้อประกันสุขภาพฉบับแรก ควรเริ่มต้นอย่างไร สวัสดีดอทคอมมีคำตอบ

  • 0 Replies
  • 969 Views

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline arnon74

  • Basic
  • *
  • 28
  • siamspeed.com

ทุกวันนี้มักมีข่าวเกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บรูปแบบใหม่เข้ามาเรื่อยๆ ทำให้หลายคนตระหนักถึงความสำคัญของประกันสุขภาพมากขึ้น เพราะการมีประกันสุขภาพนั้นถือว่าช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน หรือ เจ็บป่วยกะทันหันก็ได้รับการเยียวยา คุ้มครอง และ ชดเชย แต่ในทุกวันนี้ประกันสุขภาพในท้องตลาดมีให้เลือกมากมาย แถมแต่ละบริษัทก็เสนอแผนประกันที่โดนใจและคุ้มค่าหลายแห่ง แต่จะทำประกันสุขภาพที่ไหนดี บทความนี้มีคำแนะนำเกี่ยวกับการซื้อประกันสุขภาพ ฉบับแรกมาฝากกัน

ซื้อประกันสุขภาพฉบับแรกต้องเริ่มอย่างไร?
สำหรับมือใหม่ที่ต้องการเริ่มต้นทำประกันสุขภาพดีๆ โดยจ่ายค่าเบี้ยประกันในราคาที่ไม่สูงมาก แต่ให้ความคุ้มครองครบถ้วนสักกรมธรรม์ มาดูกันว่าต้องเริ่มต้นอย่างไร
1. เช็กสวัสดิการที่ตนเองมี
สำหรับคนที่ทำงานประจำ โดยปกติทางบริษัทจะมีสวัสดิการเกี่ยวกับประกันสุขภาพให้อยู่แล้ว โดยเงื่อนไขของแต่ละบริษัทก็จะแตกต่างกันออกไป เช่น สิทธิ์ประกันสังคม กองทุนทดแทน หรือประกันกลุ่ม และสิทธิ์บัตรทอง สำหรับผู้ที่ทำงานอิสระ หรือ ฟรีแลนซ์ ซึ่งการเช็คสวัสดิการตรงนี้สามารถทำให้ทราบถึงสิทธิ์ความคุ้มครองที่คุณได้รับ รวมถึงสามารถประเมินได้ว่าความคุ้มครองใดที่ตกหล่นไป และทำให้ทราบถึงสิทธิ์การรักษาที่ต้องการเพิ่มเติมได้
2. คาดการณ์ความคุ้มครองที่ต้องการ
ประกันสุขภาพ มีหลายความคุ้มครองและสิทธิ์การรักษาให้เลือกมากมาย ซึ่งจุดนี้จำเป็นต้องมีการประเมินกับตนเองว่าอยากได้ความคุ้มครองในลักษณะใด โดยอาจจะประเมินจาก ทุนประกัน วงเงินค่ารักษาพยาบาล เงินชดเชยรายได้ การชดเชยค่าใช้จ่ายอื่นๆ เป็นต้น เมื่อความต้องการชัดเจน ก็จะทำให้สามารถเลือกซื้อประกันสุขภาพที่ตรงใจมากที่สุดได้
3. ส่วนต่างระหว่างสวัสดิการและความคุ้มครองที่ต้องการ
มาถึงส่วนที่ต้องคำนวณถึงความคุ้มครองที่ต้องการและสวัสดิการที่มีอยู่ เพื่อให้เห็นถึงส่วนต่างที่เกิดขึ้น ว่าความต้องการสิทธิ์การรักษาสุขภาพของเรายังขาดเหลืออยู่อีกเท่าไหร่ อีกทั้งยังช่วยให้ทราบอีกว่าควรซื้อประกันสุขภาพแผนใดถึงจะตอบโจทย์กับความต้องการ นอกจากนี้ควรคำนวณเผื่อไว้สำหรับภาวะเงินเฟ้อที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย



4. ค่าเบี้ยที่จ่ายไหว
หลังจากที่มีแผนประกันในใจและความคุ้มครองที่ต้องการแล้ว ให้นำมาพิจารณาร่วมกับเบี้ยประกันสุขภาพ ที่ต้องจ่ายว่าสามารถชำระไหวหรือไม่ แน่นอนว่าความคุ้มครองที่ครอบคลุมมาก ย่อมมาพร้อมกับเบี้ยประกันที่สูงตามไปด้วย โดยทั่วไปแล้ว เราแนะนำให้คำนวณเบี้ยประกันอยู่ที่ 10% ของรายได้ต่อปี เพื่อที่คุณจะสามารถจ่ายได้โดยที่สภาพคล่องทางการเงินยังคงดำเนินไปได้อย่างราบรื่น รวมถึงสามารถเพิ่มเบี้ยประกันตามความเหมาะสมได้ กรณีที่ค่ารักษาพยาบาลมีแนวโน้มสูงขึ้นในอนาคต หรือ วงเงินในกรมธรรม์อาจจะไม่เพียงพอต่อการรักษา
5. เปรียบเทียบแผนประกัน
เมื่อได้ค่าเบี้ยที่เราพอจะจ่ายไหวแล้ว ขั้นต่อไปคือการเปรียบเทียบเพื่อค้นหากรมธรรม์ที่ตรงใจ ตอบโจทย์และคุ้มค่ามากที่สุด โดยเลือกจากประกันแผนเดียวกันของบริษัทไหนจะคุ้มค่าและมีระยะเวลาคุ้มครองที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด ซึ่งในขั้นตอนการเปรียบเทียบประกันสุขภาพ นี้ คุณสามารถเข้าถึงได้ง่าย ๆ เพียงแค่เข้าเว็บไซต์ สวัสดีดอทคอม ช่วยให้ค้นหาแผนประกันได้อย่างง่ายดาย ภายใน 2 วินาที ก็จะปรากฏแผนประกันจากบริษัทประกันกว่า 14 แห่ง ครบ จบในที่เดียว
6. ทำความเข้าใจรายละเอียดของกรมธรรม์
ไม่ว่าประกันรูปแบบไหน ล้วนมีข้อมูลและเงื่อนไขที่ค่อนข้างเยอะ การทำความเข้าใจรายละเอียดทั้งหมดก็เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง และลดปัญหาเข้าใจผิดเกี่ยวกับกรมธรรม์ที่ตกลงซื้ออีกด้วย ทั้งนี้สามารถสอบถามกับบริษัทประกันหรือตัวแทนได้เลยหากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม
7. อย่าลืมเช็กสิทธิประโยชน์
นอกเหนือจากเบี้ยประกันที่แต่ละบริษัทเสนอให้แล้ว บางบริษัทอาจจะมีดีลหรือโปรโมชั่นพิเศษที่ส่งเสริมการขาย ดึงดูดให้ลูกค้ามาซื้อประกันสุขภาพที่บริษัทของตนเอง เช่น การลดหย่อนภาษี , การผ่อนจ่ายทั้งแบบเงินสดและบัตรเครดิต , หากไม่เคลมก็จะได้ลดค่าเบี้ยในการต่อประกันในรอบถัดไป หรือส่วนลดค่าเบี้ยประกัน เป็นต้น

เลือกประกันสุขภาพที่ใช่ จากสวัสดีดอทคอม
ใครที่กำลังมองหาประกันและไม่รู้ว่าจะซื้อประกันสุขภาพที่ไหนดี ขอแนะนำ ประกันสุขภาพจาก สวัสดีดอทคอม ที่รวมประกันสุขภาพทุกแผนจากบริษัทชั้นนำของประเทศไทยมาไว้ที่นี่ ถึง 14 แห่ง ให้ทุกคนได้เปรียบเทียบแผนประกันที่ตอบโจทย์ ตรงใจ และคุ้มค่ามากที่สุด เบี้ยประกันสบายกระเป๋า เริ่มต้นเพียงเดือนละ 1,200 บาท แต่ให้ความคุ้มครองสูงสุดถึง 700,000 บาท* คุ้มครองค่าห้องผู้ป่วยในสูงสุด 8,000 บาท/วัน* สามารถต่ออายุได้ถึง 100 ปี ไม่ต้องสำรองจ่าย ที่สำคัญยังนำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาท
การซื้อประกันสุขภาพ ก็เปรียบเสมือนการซื้อสุขภาพให้กับตนเอง เครื่องจักรยังต้องการมีซ่อมบำรุง เช่นเดียวกับร่างกายของเราก็ต้องได้รับการดูแลให้ดี หากเกิดการเจ็บป่วย ต้องได้รับการรักษาที่ดีและปลอดภัย เพราะร่างกายไม่สามารถหาชิ้นส่วนหรืออะไหล่มาทดแทนได้ ในการตัดสินใจทำประกัน จำเป็นต้องมีการอาศัยความเข้าใจในตัวกรมธรรม์ก่อนตัดสินใจซื้อ เพราะนั่นจะนำมาสู่ความคุ้มครองที่คุ้มค่ากับเบี้ยประกันที่จ่ายไป